วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2552

16 มีนาคม 2552 ของการตั้งครรภ์ เรื่องราวของคุณพ่อคนใหม่ วิธีการจัดการกับความเหนื่อยล้าระหว่างตั้งครรภ์

เย่ๆ คุณแม่กลับมาแล้วครับ กลับเช้าจริงๆด้วย เห็นหน้าก็ดีใจแล้วครับ ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก ค่อยโล่งใจหน่อย อาการกินไม่ไดนอนไม่หลับของผมก็หายไป แต่จะนอนก็ยังนอนไม่ได้ เพราะว่ากำลังจะทำงาน เช้านี้ผมกินข้าวหมดจานเลยครับ หิวมาก ความจริงข้าวก็ไม่ได้อร่อยอะไรเลยครับ เรื่องของเรื่องคือ ผมลืมกินข้าวเย็นครับ มัวแต่เป็นห่วงคุณแม่และคุณลูกครับ เช้ามาเลยหิว ความจริงตอนที่ยังไม่เจอคุณแม่ยังไม่มายังไม่หิวครับ พอเห็นหน้าเท่านั้นแหละ ความหิวมันพุ่งปรี๊ดเข้ามาทันที ยังกะคุณแม่เป็นยากระษัย lol

วันนี้คุณแม่ดูเพลียๆ เบลอๆ ยังไงก็ไม่รู้ครับ สงสัยวันนี้คุณแม่ตื่นเช้า ก็เล่นออกจากน่านมาซะตี 3 ผมเลยไม่กล้าถามครับว่าที่บ้านเป็นยังไงบ้าง เลยเก็บเอาไว้ คิดว่าเดี๋ยวคงเล่าเอง และทั้งวันที่ผมรอ คุณแม่ไมได้เล่าอะไรเลยครับ จนผมทนไมได้ต้องถามเอง คุณแม่ถึงจะเล่า

วันนี้คุณแม่ไปนวดมาครับ พอนวดเสร็จ เดินกะเผกเลย หมอมันจะนวดหรืเอาไปทุบกันแน่วะ คนยิ่งเป็นห่วงอยู่คุณหมอไม่เข้าใจผมเลย

พอตกตอนเย็นคุณแม่จากดูเอ๋อๆในตอนเช้ากลับกลายเป็นคนละคนกับเมื่อตอนเช้าเลย ดวงตากลมโตคู่นั้นกลับสุกสกาวแวววาวใสปิ๊ง ทุกเย็นเลยครับที่คุณแม่จะฟื้นตัวขึ้นมา ผมคิดว่าเป็นเพราะคุณแม่เครียดเรื่องงานครับ งานช่วงนี้ยิ่งงานยุ่งๆ ผมล่ะไม่อยากให้เครียดเลยครับ คุณแม่เป็นความดันต่ำอยู่ด้วย เดี๋ยวเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะลำบาก เพราะว่ากำลังตั้งครรภ์อย่างเข้าเดือนที่ 2 นี่หากกินยาผิด ลูกอาจจะพิการได้ เฮ้อ กลุ้มใจแทน

ช่วงนี้ผมเริ่มสังเกตครับว่าค่ำๆคุณแม่จะหนาว คุณแม่บ่นว่าหนาวเหมือนเป็นไข้ เวียนหัวนิดหน่อย อยากอาเจียน ผมไม่แน่ใจว่าเป็นอาการแพ้ท้องตอนกลางคืนหรือเปล่าวะ ไอ้แพ้ท้องนี่มันเลือกช่วงเวลาแพ้ด้วยเหรอเนี่ย พรุ่งนี้ต้องไปถาม google ซะแล้วครับ คาใจ

ถ้าคนท้องดูหนังอย่างตั้งใจอย่าไปทำอะไรให้คุณแม่รำคาญใจได้นะครับ แล้วจะหาว่าผมไม่เตือน โดนมาแล้วครับ จากคุณแม่เป็นนางมารเลย หงอเลยครับขอบอก


วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องวิธีการจัดการกับความเหนื่อยล้าระหว่างตั้งครรภ์


การ รับมือกับความเหนื่อยล้าระหว่างตั้งครรภ์ของคุณแม่อาจทำได้ยากสักหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระยะท้ายๆของการตั้งครรภ์ มีอยู่สองสามวิธีที่สามารถช่วยให้คุณแม่รู้สึกเหนื่อยน้อยลงได้

  • หาเวลา 'พักผ่อน' สัก 20 นาที ในช่วงสายและช่วงบ่ายจะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นขึ้น
  • การพาดเท้าให้สูงขึ้นจะช่วยบรรเทาอาการบวมน้ำ ( fluid retention) และช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
  • หากคุณแม่รู้สึกเหนื่อยล้า การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสมยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อช่วยให้ร่างกายมีระดับภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงอยู่เสมอ
  • อาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก เช่น ผักใบเขียว สามารถช่วยเสริมสร้างพลังงานในร่างกายได้อีกด้วย
  • พยายามหลีกเลี่ยงการพึ่งพาอาหารรสหวานเพื่อช่วยให้คุณแม่ไม่เหนื่อยง่าย มีแรงตลอดทั้งวัน
  • พยายามใช้เครื่องช่วยอำนวยความสะดวกทุกอย่างที่มี
  • หาเวลาพักผ่อน เช่าหนังมาดูสักเรื่อง ช็อปปิ้งทางอินเทอร์เน็ต ทำอะไรก็ได้ที่คุณแม่อยากทำ
  • หรืออาจจะหยุดงานสักวัน เพราะคุณแม่สมควรจะพักผ่อนบ้าง

ปล.

วันนี้ผมก็น้อยใจนิดหน่อยครับ คุณแม่ถอดเอาแหวนน้อยแทนใจของผมไปไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ผมไม่กล้าทักครับ ผมเห็นว่าวันนี้คุณแม่ไม่ค่อยสบายใจเรื่องงานด้วยครับ สุขภาพจิตของคุณแม่ต้องมาก่อน แต่ก็ยังน้อยใจอยู่ดี จุ๊ๆๆ อย่าแอบไปบอกคุณแม่นะครับว่าผมแอบน้อยใจ ผมไม่อยากให้คุณแม่มีเรื่องให้คิดมากไปกว่านี้ครับ

0 ความคิดเห็น: