วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2552

11 มีนาคม 2552 ของการตั้งครรภ์ เรื่องราวของคุณพ่อคนใหม่

วันนี้ตอนเช้าคุณแม่ดูไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่ บ่นๆมาว่าอยากนอน ไม่อยากทำอะไร แต่ตอนนี้หิวข้าวมาก คุณแม่หิวจริงๆครับ ข้าวที่ปกติซื้อมากินนี่จะกินเฉพาะกับที่เขาโป๊ะมาให้ ข้าวจะเหลือบานเลย แต่วันนี้ เกือบไม่เหลือ ผมจำได้ว่าวันนี้คุณแม่จะต้องเข้าเวรตอนเที่ยง 11.00 น. ต้องออกมากินข้าวแล้ว ซึ่งผมก็ๆได้เช็คตารางประชุมแล้วไม่มีประชุมผมก็กะว่า จะไปกินด้วย ปกติผมกับคุณแม่จะไม่ค่อยกินข้าวกลางวันด้วยกันครับ ปกติจะไปกินกับเพื่อนร่วมงานกันซะมากกว่า พอมาถึงสำนักงานพี่ผู้ช่วยก็บอกว่า ให้ไปประชุมตรวจแบบ ณ บัดนาว โอ้ งานเข้า
ซัก 9.00 น. ผมแอบโทรหาคุณแม่ คุณแม่บ่นว่าหิว (อีกแล้ว) ผมไม่รู้ว่าจะไปซื้อผลไม้ให้ยังไงต้องอยากจะโดดประชุมซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ไม่ได้โดดครับ มาถึงคิวผมต้องออกความเห็นพอดี
11.00 น. คุณแม่โทรมา ผมรีบรับสายทันที
“ประชุมยังไม่เสร็จเหรอ”
ผมตอบไปแบบกระซิบว่า “ยังจ้า”
“งั้นไปกินข้าวก่อนนะ” คุณแม่รีบบอกจุดประสงค์มา
“ร้านไหน”
“ร้านใกล้ๆนี่แหละจ้า” ผมรู้แล้วครับว่าร้านไหน
“ตั้งใจประชุมนะ เค้าไปกินคนเดียวได้” นี่แหละครับที่ผมนับถือน้ำใจของคุณแม่ หน้าที่ต้องมาก่อน “ไม่ต้องห่วง เค้าแข็งแรงดี”
“จ้า” ผมก็ตอบไปเพียงแค่นั้น คุณแม่ก็วางสายไป
ผมเหลือบดูนาฬิกา 11.20 ใจไม่อยู่ในห้องประชุมแล้วครับ อยู่ที่ร้านโน่น 11.25 ประธานกล่าวปิดประชุม ผมควักโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรหาคุณแม่ทันที บอกคุณแม่ไปว่า “สั่งข้าวอบไก่ให้ด้วย เดี่ยวไปหา” ได้ยินเสียงใสๆตอบกลับมาว่า
“จ้า” แล้วก็วางสายไป น่ารักไหมครับคุณแม่ของผม
หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จ ผมก็มาส่งคุณแม่ที่สำนักงาน แล้วก็ลงมือนวดเหมือนเดิม
ตอนบ่ายคุณแม่เข้ามาทำธุระในเมือง แถมแอบมาตรวจร่างกายอีก ความจริงผมอยากไปด้วยจะได้ดูแล แล้วก็ปรึกษาคุณหมอด้วย แต่ ติดงาน ไปไม่ได้ เฮ้อ จ๊อดเซ็ง
ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าคุณแม่ มีอาการหน้ามืด กลัวจะเป็นลมครับ เป็นห่วงมาก แต่ไม่รู้จะทำยังไง งานก็ต้องทำ อยากจะไปอยู่ที่สำนักงานของคุณแม่ทั้งวันเลย อยากดูแลให้มากกว่านี้ครับบอกตรงๆ ถึงแม้ว่าช่วงนี้คุณแม่จะหงุดหงิดง่ายก็ยังอยากจะฟังคำด่าอยู่ดี ไม่ได้เป็นโรคจิตนะครับ คนเราถ้าหงุดหงิดแต่ไม่ได้ระบายมันจะเครียด ความเครียดเป็นสิ่งต้องห้ามของคุณแม่ครับ

บทความที่ผมให้ความสนใจครับ บทความได้มาจากสุดรักเช่นเดิม

ตั้งครรภ์ 2 เดือน
ในเดือนที่ 2 ของการตั้งครรภ์นั้น เป็นเดือนที่สำคัญ เพราะเป็นเวลาที่ตัวอ่อนหรือทารกน้อยๆ จะมีการพัฒนา เจริญเติบโตของระบบประสาทและหลอดเลือด ขณะเดียวกันอวัยวะที่สำคัญก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ทำให้ระยะเวลาดังกล่าวนี้ ทารกจะเสี่ยงต่อการเกิดความพิการ ถ้าได้รับสารพิษเข้าไป ในเดือนที่ 2 นี้ตัวทารกจะมีความยาวประมาณ 1 นิ้วฟุต ซึ่งแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ทารกก็จะมี แขน ขา หน้า รูปร่างเหมือนมนุษย์ขนาดจิ๋ว ขณะเดียวกันก็จะมีหัวใจที่เต้นทำงานบีบเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ผู้ตั้งครรภ์ในเดือนที่ 2 นี้ ก็จะมีอาการแพ้ท้อง เช่นเดียวกับเดือนแรก คือจะมีอาการแสบท้องอ่อนเพลีย หน้าอกโตขยายใหญ่ขึ้น ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงจะทำให้การย่อยอาหารช้าลง จะทำให้ผู้ตั้งครรภ์มักจะมีอาการท้องอืดเฟ้อ ท้องผูก และผู้ที่ตั้งครรภ์จะรู้สึกหน้ามืด เป็นลมบ่อยๆ

0 ความคิดเห็น: