วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2552

14 มีนาคม 2552 ของการตั้งครรภ์ เรื่องราวของคุณพ่อคนใหม่ กับอาการแพ้ท้อง

วันนี้คุณแม่ไปถึงน่าน เวลาประมาณ 11.30 ครับ คุณแม่น่ารักมาก ถึงแล้วก็โทรมาบอกเลยครับ วันนี้เซ็งนิดๆ ไม่ได้ดูแลคุณแม่อย่างที่เคยครับ อยู่บ้านคนเดียว แสนจะเปลี่ยวใจ

17.00 ละ คุณแม่ยังไม่โทรมาเลย สงสัยกำลังทำหน้าที่เป็นลูกที่ดี กับคุฯพ่อตาและคุณแม่ยาย งานนี้รออย่างเดียวครับ

วันนี้คุณแม่กินข้าวเช้ากลับอะไรน้า ?

วันนี้คุณแม่จะหิวบ่อยหรือปล่าน้า ?

วันนี้คุณแม่จะหน้ามืดหรือเปล่าน้า ?

วันนี้คุณแม่จะ.........?

โอ๊ย เป็นห่วงครับ ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง กลับมาก่อนเหอะ ได้เห็นดีกัน จะจับหอมแก้มให้ตายเลย ข้อหาไม่ยอมโทรมา

คิดมากไปก็เท่านั้นครับ วันนี้เรามาคุยกันเรื่อง การแพ้ท้องของคุณแม่ดีกว่า

การแพ้ท้อง เกิดจาก การเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของคุณแม่ ซึ่งรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "เอสโตรเจน" ( Estrogen) ที่เพิ่มสูงขึ้น และประสาทรับกลิ่นมีความไวมากขึ้น แม้แต่สภาพอารมณ์หรือระดับความเครียดก็สามารถทำให้เกิดอาการแพ้ท้องได้เช่น กัน ดังนั้นคุณแม่จึงควรหาเวลาผ่อนคลายความเครียดให้มากๆ ถึงแม้ว่าอาการแพ้ท้องอาจทำให้คุณแม่รู้สึกวิตกกังวล แต่หากคุณแม่สามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกติ อาการแพ้ท้องก็จะไม่เป็นอันตรายกับลูกน้อยของคุณแม่ครับ แต่หากคุณแม่ไม่สามารถรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำได้เลยหรือรู้สึกเบื่ออาหารทุก ชนิด ควรปรึกษาสูติแพทย์หรือพยาบาลผดุงครรภ์ของคุณแม่ทันทีครับ คุณหมอสามารถช่วยคุณแม่ได้แน่นอน

แล้วอาการแพ้ท้องจะคงอยู่เป็นระยะเวลานานเท่าใด
โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการแพ้ท้อง จะ หมดไปในช่วงเดือนที่ 3 ของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม อาการคลื่นไส้อาเจียนอาจเกิดขึ้นได้อีกตลอดช่วงตั้งครรภ์ เพียงแค่ได้กลิ่นบางอย่างที่ชวนให้คลื่นเหียนอาเจียน และแน่นอนว่ากลิ่นที่ชวนให้รู้สึกคลื่นเหียนอาเจียนก็แตกต่างกันไปในแต่ละคน

วิธีการรักษาอาการแพ้ท้องที่กันดีกว่าครับ

1. รับ ประทานของขบเคี้ยวง่ายๆ และไม่หวานมากทันทีที่คุณตื่นนอน เช่น บิสกิตหรือขนมปังกรอบจะช่วยได้อย่างมาก จากนั้น ให้นอนพักอีก 20-30 นาที ก่อนลุกออกจากเตียง

2. ในช่วงที่เหลือระหว่างวัน พยายามรับประทานครั้งละน้อยๆ แต่รับประทานบ่อยๆ ทานอะไรสักหน่อย ดีกว่าไม่ได้ทานอะไรเลยหรือซื้อของขบเคี้ยวมาเก็บไว้ เช่น ขนมปังกรอบหรือโยเกิร์ตไว้รับประทานเวลาหิว

3. อาหารที่มีโปรตีนหรือคาร์โบไฮเดรตสูงสามารถช่วยป้องกัน อาการคลื่นไส้อาเจียนได้ เพราะฉะนั้น พยายามรับประทานอาหารทั้งสองชนิดนี้ร่วมกัน เช่น รับประทานไข่สุกกับขนมปังปิ้ง

4. ดื่มน้ำมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเปล่า น้ำผลไม้ นม ชาผลไม้ น้ำอะไรก็ตามที่คุณสามารถดื่มได้ น้ำขิงหรือชาขิงจะช่วยให้อาการคลื่นไส้อาเจียนลดลงและทำให้หายจากอาการแพ้ ท้องได้ ที่สำคัญ อย่าลืมหาเวลาผ่อนคลายเพื่อกำจัดความเครียดที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน การพูดคุยกับว่าที่คุณแม่คนอื่นๆ ที่มีอาการแพ้ท้องเช่นเดียวกันก็สามารถช่วยผ่อนคลายได้

จากเว็บ สุดรัก ครับ

อันนี้เป็นวิธีที่คุณแม่ของผมลองใช้แล้วได้ผลครับ ที่เราใส่ใจกันมากหน่อยคือเรื่องสัดส่วนของอาหารครับ คุณแม่ของผมใจเด็ดมาก อาหารไม่อร่อยแต่มีประโยชน์คุณแม่จะฝืนกินครับ ผมล่ะซึ้งเลย สงสารคุณแม่มากๆครับ

0 ความคิดเห็น: